บริษัท ไว้ส์ทาร์เก็ต จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญ กับความเป็นส่วนตัวและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน “ข้อมูลส่วนบุคคล” (ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562) พร.บ.ฯ (“บริษัท”) จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้และ/หรือเปิดเผยข้อส่วนบุคคลของท่าน
1. วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือ ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
2. ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและฐานทางกฎหมาย โดยบริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยใช้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวมรวบ, การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล | ฐานทางกฎหมายที่ใช้อ้างอิง | ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการจัดเก็บ | ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล |
---|---|---|---|
1. เพื่อสรรหาบุคคลากรเข้าปฏิบัติงานในบริษัท |
ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงาน ที่ได้แสดงเจตนาสมัครงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคลากรของบริษัทฯ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการรับสมัครงานหรือในการดำเนินการภายหลังการรับสมัครงาน เช่น การพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครงาน เป็นต้น ฐานความยินยอม: ทางบริษัทฯ จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน |
|
1 เดือน |
2. เพื่อจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานปัจจุบัน |
ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงานที่ผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์งานและเข้าสู่กระบวนการอนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์สำหรับบุคลากรก่อนเข้าทำสัญญาจ้าง หรือสัญญาอื่นใด เพื่อบรรจุเข้าเป็นบุคลากรของบริษัทฯ ฐานกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองทางสังคม ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เป็นการจำเป็นต่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การจัดสรรสวัสดิการและผลประโยชน์ของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร อาทิ ข้อมูลสุขภาพ, ข้อมูลชีวภาพ |
|
ตลอดอายุการทำงาน และเก็บเอกสารต่ออีก 10 ปี หลังจากหมดสัญญาจ้าง |
3. เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของพนักงานใหม่ |
ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร อาทิ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากรก่อนการเข้าปฏิบัติงานใน บริษัทฯ |
|
ตลอดอายุการทำงาน และเก็บเอกสารต่ออีก 10 ปี หลังจากหมดสัญญาจ้าง |
4. เพื่อนำข้อมูลทำบัญชีเงินเดือนของพนักงาน ส่งให้ (สรรพากร, สนง.ประกันสังคม, กยศ.) |
ฐานสัญญา: เป็นการจำเป็นสำหรับการจ่ายค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนและ/หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา ฐานกฎหมาย: เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร การนำส่งเงินกองทุนประกันสังคมให้แก่ สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย คุ้มครองทางสังคม |
|
ตลอดอายุการทำงาน และเก็บเอกสารต่ออีก 10 ปี หลังจากหมดสัญญาจ้าง |
5. เพื่อทำกิจกรรมสันทนาการของบริษัท |
ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ บริษัทฯ ทำกิจกรรมต่างๆ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากรก่อนการทำกิจกรรม อาทิ เช่น การขอสำเนาหนังสือเดินทางออกนอกประเทศ |
|
5 ปี |
6. เพื่อหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพนักงาน |
ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ บริษัทฯ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ที่ร้องขอเข้ามา ซึ่งจะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากรก่อน อาทิ เช่น การขอข้อมูลในการทำสินเชื่อ |
|
5 ปี |
7. เพื่อตรวจสอบการเข้า-ออกพื้นที่ควบคุมของบริษัท (Secure Area) |
ฐานความยินยอม: ทางบริษัทฯ จะขอความยินยอมในการขอข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน ก่อนการเข้าพื้นที่ควบคุมของบริษัท เพื่อให้ทาง บริษัทฯ สามารถตรวจสอบและระบุตัวตนที่เข้ามายังพื้นที่ที่ควบคุมได้เมื่อมีเหตุจำเป็น |
|
5 ปี |
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ข้างต้น โดยบริษัท จะลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่านั้น
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทจะเคารพสิทธิของท่านและจะดำเนินการตามกฎหมายกฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน ภายใต้สถานการณ์บางประการอย่างทันท่วงที
ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
ท่านอาจใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 7 ด้านล่าง
บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล(หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัย ที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
บริษัทจะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณีบริษัทอาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า หนึ่งคำขอในกรณีดังกล่าว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทให้ความสำคัญ กับความปลอดภยัของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัท จะตรวจสอบและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอ ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์หรือเข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท
8. การจัดการกับเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย
ท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัท จัดเก็บ ใช้ประมวลผลและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือสอบถามข้อสงสัยได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ที่อยู่: 111 ทรูดิจิทัล พาร์ค อาคาร ยูนิคอร์น ชั้น 5 ห้อง SH558 ถนน สุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง จังหวัด กทม. 10260
เบอร์โทร: 02-014-3288 #104
อีเมล: [email protected]
รหัสเอกสาร: FM-WT14-04_01 (R00) ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567